รฟม. ให้การต้อนรับคณะผู้เข้ารับการอบรมและเจ้าหน้าที่หลักสูตร นักบริหารการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับต้น รุ่นที่ 15 ในโอกาสศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการนวัตกรรม และศูนย์ข้อมูลข่าวสารของ รฟม.

01 มีนาคม 2566
preview image
รฟม. ให้การต้อนรับคณะผู้เข้ารับการอบรมและเจ้าหน้าที่หลักสูตร นักบริหารการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับต้น รุ่นที่ 15 ในโอกาสศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการนวัตกรรม และศูนย์ข้อมูลข่าวสารของ รฟม.

นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ รองผู้ว่าการ (กลยุทธ์และแผน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วย นายถนอม รัตนเศรษฐ ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟม. ได้ให้การต้อนรับ นายศิริสุข ยืนหาญ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และคณะผู้เข้ารับการอบรมและเจ้าหน้าที่หลักสูตร นักบริหารการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับต้น (นบต.ปปส.) รุ่นที่ 15 จำนวน 54 คน เนื่องในโอกาสเข้าศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการนวัตกรรม และเยี่ยมชมศูนย์ข้อมูลข่าวสารของ รฟม.

ในโอกาสนี้ รฟม. ได้นำเสนอภาพรวมการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการนวัตกรรม ตามแผนแม่บทการจัดการนวัตกรรม ปีงบประมาณ 2564 – 2570 ผ่านการขับเคลื่อนภารกิจสนับสนุนการให้บริการรถไฟฟ้าและระบบเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม มุ่งสู่การเป็นองค์กรด้านนวัตกรรมรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และสร้างวัฒนธรรมด้านนวัตกรรมภายในองค์กร ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม 

จากนั้น รฟม. ยังได้นำเสนอข้อมูลภาพรวมการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลข่าวสารของ รฟม. ซึ่งมีแนวทางการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 โดยยึดหลัก “เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น” ตลอดจนการบริหารจัดการต่างๆ ในการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน พร้อมกันนี้ รฟม. และคณะผู้เข้าศึกษาดูงาน ได้ร่วมสอบถามข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วยบรรยากาศอันดี ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อศูนย์ข้อมูลข่าวสาร ได้ที่ ศูนย์ราชการสะดวก รฟม. อาคาร 1 ชั้น 1 เลขที่ 175 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร หรือเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูล ข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์ http://www.oic.go.th/infocenter6/603/ หรือช่องทางออนไลน์ที่ Line @mrtacontactcenter และ Call Center   0 2716 4044 ในวันและเวลาราชการ “รฟม. ร่วมยกระดับเมืองด้วยโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนและนวัตกรรม เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน”